โปรแกรมคลังสินค้า Warehouse Management
:: โปรแกรมระบบบริหารคลังสินค้า ::
คลังสินค้า หรือ Warehouse ส่วนใหญ่แล้วจะหมายถึงสถานที่จัดเก็บสินค้าสำเร็จรูป หรือ วัตถุดิบ โดยสินค้าที่จัดเก็บอยู่ในคลังสินค้า จะต้องระบุตำแหน่งในการจัดเก็บ (Location) ให้เป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา โอนย้าย และ จัดส่ง โปรแกรมระบบบริหารคลังสินค้า จะช่วยในการบริหารจัดการพื้นที่การจัดเก็บ การจัดส่งสินค้าให้เป็นระบบ และยังสามารถทำหน้าที่เป็นจุดเปิดบิลขายเพื่อแนบไปพร้อมกับสินค้าที่จะจัดส่งด้วย
- ตรวจสอบสินค้าและบันทึกปริมาณที่รับจริง
- ระบุ Location ที่นำสินค้าไปเก็บจริง
- สร้างใบแบ่งสินค้าตามลูกค้า
- สร้างเอกสาร Picking
- สร้างเอกสาร Packing
- สร้าง Invoice จาก Packing
- ปรับปรุงสต๊อกตาม Location
- ตรวจนับตาม Location
โปรแกรมขายหน้าร้าน Impress Point of Sales
:: รายละเอียดและคุณสมบัติโปรแกรมขายหน้าร้าน ::
- รองรับทั้งการทำงานเชื่อมกับระบบ Back Office ทั้งแบบ Online/Offline
- ควบคุมการทำงานเป็นกะ ของแคชเชียร์
- ควบคุมการเปิด/ปิดลิ้นชักเก็บเงิน
- รองรับการทำงานทั้งแบบ Shop และ การตัดขายในห้างฯ (กรณีฝากขาย
- รองรับการส่งเสริมการขาย (Sales Promotion)
- รองรับระบบสมาชิก
- สามารถออกใบกำกับภาษีขายอย่างย่อและเต็มรูปได้
- รายงานการขายและรายงานสรุปการขายประจำวัน
- รายงานการขายตามช่วงเวลา
- รายงานวิเคราะห์ขายแยกตามหน้าร้าน
- มีระบบสินค้าคงคลังของร้าน
- มีระบบตรวจสอบและยืนยันใบรับสินค้าจากสำนักงาน
- มีระบบตรวจสอบและยืนยันใบรับสินค้าจากสาขา
- สร้างเอกสารการคืนสินค้ากลับสำนักงาน
- สร้างเอกสารการโอนสินค้าไปสาขาอื่น
- ตรวจนับสินค้า
- สร้างรายการปรับปรุง หลังตรวจนับ
:
โปรแกรมต้นทุน Impress Activity Based Costing
คุณสมบัติและรายละเอียดโปรแกรมต้นทุนตามกิจกรรม
- คำนวณต้นทุนต่อหน่วยที่ใช้ในการผลิตสินค้าและเป็นเครื่องมือสำหรับฝ่ายจัดการ
- รองรับการผลิตสินค้าทั้งกรณีที่มีความจำเป็นต้องมีสูตรสำหรับผลิตสินค้าสำเร็จรูปหรือสินค้าระหว่างผลิตละกรณีที่ไม่สูตรการผลิต
- รองรับธุรกิจทั้งผลิตสินค้าและธุรกิจที่ให้บริการ
- บทบาทของต้นทุนตามกิจกรรมทำให้หน่วยงานบัญชีและหน่วยงานอื่นทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
- ขจัดความยุ่งยากและข้อขัดแย้งในการคำนวณต้นทุนต้นทุนที่ได้สะท้อนภาพการจัดการ
- ปรับปรุงงานขององค์กรให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- กระบวนการจัดทำต้นทุนการผลิตตามกิจกรรมกำหนดศูนย์การผลิต
- กำหนดผลงานของแต่ละศูนย์การผลิต
- กำหนดกิจกรรมของแต่ละผลงาน
- กำหนดทรัพยากรที่ต้องใช้ในแต่ละกิจกรรม
- กำหนดศูนย์สนับสนุนการผลิต
- กำหนดผลงานของแต่ละศูนย์สนับสนุนการผลิต
- กำหนดกิจกรรมของแต่ละประเภทบริการ
- กำหนดทรัพยากรที่ต้องใช้ในแต่ละกิจกรรม
- กำหนดนโยบายบัญชีต้นทุน
- กำหนดประเภทผลผลิต
- กำหนดรูปแบบรายงานและเอกสารแบบฟอร์มรายงานเพื่อการตรวจสอบ
- รายงานเพื่อการใช้งาน
- :: โปรแกรมระบบต้นทุนฐานกิจกรรม ::
- 1.สามารถทราบถึงต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงในภาพรวมของผลผลิตแต่ละชนิดที่ผลิต(Product) หรือบริการแต่ละประเภทที่ขายสำหรับลูกค้าแต่ละราย หรือการ ปฏิบัติงานแต่ละประเภท เช่นการจัดซื้อวัตถุดิบในแต่ละ Lot การขายสินค้าให้กับ ลูกค้าแต่ละรายหรือแต่ละเขตการขาย การจัดหาบุคคลากรแต่ละรุ่น หรือต้นทุนโครงการก่อสร้างแต่ละ Project 2. สามารถทราบได้ว่าต้นทุนของผลผลิต หรือบริการ ตามข้อ 1. เกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตใด และมีต้นทุนขั้นตอนละเท่าใดของกระบวนการผลิต หรือการ ปฏิบัติงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตหรือ ความสำเร็จของงาน ตามข้อ 1. 3. สามารถทราบได้ว่าต้นทุนของแต่ละกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนตามข้อ 2. มีต้นทุนกิจกรรมละเท่าไร
- สินค้าสำเร็จรูป
- งานระหว่างทำ
- ผลพลอยได้
- สินค้าเกรดของเสีย
4. สามารถทราบได้ว่า ต้นทุนของแต่ละกิจกรรมตามข้อ 3. ประกอบด้วย ปัจจัยการผลิตอะไรบ้าง และมีต้นทุนชนิดละเท่าไร นอกจากนี้ยังทราบถึงองค์ประ กอบของค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปทั้งทางตรง และ ทางอ้อม จากการปฏิบัติงานดัง กล่าวอย่างมีนัยสำคัญ
5. จากข้อมูลที่ได้ในข้อที่ 4. จะทำให้ท่านสามารถพิจารณาความเหมาะสม และความจำเป็นของแต่ละกิจกรรมที่ต้องกระทำในข้อ 4. ว่าจะคงอยู่ หรือตัดออก หรือ ลดขนาดของปฏิบัติงาน หรือเพิ่มงานที่มองข้ามไปเพื่อเพิ่มผลผลิต หรือเพิ่ม คุณภาพของผลผลิต แล้วแต่กรณี ทั้งนี้เพราะว่า ปริมาณผลผลิตก็ดี คุณภาพผล ผลิตก็ดี ปริมาณผลพลอยได้ก็ดี ปริมาณความสูญเสียก็ดี ตลอดจนต้นทุนของผล ผลิตจะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก หากไม่เปลี่ยนแปลงกิจกรรมที่ทำ
6. ท่านสามารถปรับปรุงกิจกรรมในกระบวนการผลิต การปฏิบัติงาน ให้มี ประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างเหมาะสม
:
โปรแกรมการผลิต Impress Production Planning
:: โปรแกรมระบบงานวางแผนการผลิต ::
เป็นระบบที่ช่วยในการวางแผนการผลิต โดยระบบจะคำนวณหาปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการผลิตแต่ละครั้ง เช่น วัตถุดิบ เครื่องจักร แรงงาน เพื่อกำหนดตารางการผลิตที่เหมาะสม ทั้งยังเป็นการช่วยฝ่ายขายตอบคำถามสำหรับลูกค้าที่เป็นลักษณะจ้างทำ (By Order) ว่าถ้าสั่งซื้อแล้ว จะสามารถส่งมอบสินค้าได้เมื่อไร
- กำหนดกำลังการผลิต-เครื่องจักรของแต่ละกลุ่มงานผลิต
- กำหนดสูตรปัจจัยการผลิตภายใต้กิจกรรม ต่อปริมาณผลผลิต 1 สูตร
- กำหนดสูตรเวลา-เครื่องจักรภายใต้กิจกรรม ต่อปริมาณผลผลิต 1 สูตร
- รองรับการผลิตสินค้าที่มี Joint Product
- กำหนดสายการผลิตของสินค้าสำเร็จรูปว่าผ่านกลุ่มงานผลิตใดบ้าง
- ตรวจสอบแผนการใช้เครื่องจักร-ของแต่ละกลุ่มงานผลิต
- ตรวจสอบกำลังการผลิตคงเหลือ-ของแต่ละกลุ่มงานผลิต
- สามารถตอบคำถามลูกค้าหรือฝ่ายขายได้ว่า Order แต่ละ Order สามารถผลิตเสร็จเมื่อไร โดยคำนวณจาก Capacity ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- สามารถวางแผนการผลิตตาม Order ของลูกค้า(Made To Order) หรือเพื่อ Stock (Made To Stock)ได้
- สามารถสร้างตารางการผลิตเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส หรือรายปีได้
- ตรวจสอบสถานภาพ Order ของลูกค้าแต่ละราย (ปริมาณ Order, สั่งผลิตเมื่อ,ผลิตจริงเมื่อ,นำส่งคลังปริมาณ, %นำส่ง)
- ตรวจสอบสภาพสินค้าระหว่างผลิต (ผลผลิต) ตาม Order (ติดตามงานได้ว่าสินค้าระหว่างผลิตแต่ละขั้นตอนเสร็จไปแล้วเท่าไร ค้างอยู่ในกลุ่มงานผลิตใดบ้าง เสร็จเป็นสินค้าสำเร็จรูปนำส่งคลังไปแล้วกี่ %)
- ประเมินผลการปฏิบัติงานแต่ละ Order
: